scmcthailand

งานน้ำหนักที่ดีต่อใจ

งานน้ำหนักที่ดีต่อใจเริ่มได้ที่เรา FromMyWeightToMyHeart ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568

หมอกล้า และทีมงาน SCMC (มาลิคลินิกเวชกรรมเดิม สีลม) ได้ร่วมงานของ บริษัท Novo Nordisk ในฐานะผู้ใช้ ผลิตภัณฑ์ semaglutide รายใหญ่ ของประเทศไทย

จัดที่ โรงแรมดุสิตธานี สีลม 16 พฤษภาคม 2568

ไทยเข้าสู่ยุค “ลงทุนเพื่อสุขภาพ” ดีมานด์ลดน้ำหนัก-ดูแลรูปร่างพุ่ง ตลาดความงามแตะ 3 แสนล้านบาท

เทรนด์การดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนักเติบโตต่อเนื่อง แพทย์แนะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ภายใต้การดูแลของแพทย์

ข้อมูลจากกรมอนามัยชี้ 42% ผู้ใหญ่ไทยอยู่ในภาวะอ้วน ขณะที่ตลาดสุขภาพและความงามในไทยปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 300,000 ล้านบาท ตามการศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อการควบคุมน้ำหนักและชะลอวัยที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 7-10%

นพ.ชเนษฎ์ ศรีสุโข แพทย์ประจำโรงพยาบาลศรีสุโข จังหวัดพิจิตร และผู้ก่อตั้งมาลิคลินิกเวชกรรม สีลม กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกควบคู่กับสุขภาพที่ดี โดยมีปัจจัยสำคัญ อาทิ พฤติกรรมการบริโภคแบบใส่ใจสุขภาพ การให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ในโลกดิจิทัล ตลอดจนผลกระทบของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่มักเชื่อมโยงกับภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน

ปัจจุบันประเทศไทยติดอันดับความชุกของโรคอ้วนในภูมิภาคเอเชีย สอดคล้องกับข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขที่ระบุว่า คนไทยวัย 15-59 ปี ประสบภาวะโรคอ้วนถึง 42.4% (16 ล้านคน) ส่งผลงบประมาณการรักษาพยาบาลของรัฐ และยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรค NCDs จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือสร้างความตระหนักและป้องกันโรคอ้วนอย่างจริงจัง เพื่อลดความเสี่ยงโรค NCDs และภาระสาธารณสุขในระยะยาว[1]”

ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า ประชากรผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 70 มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่เชื่อมโยงกับสาเหตุการเสียชีวิตหลัก เช่น โรคหัวใจ, หลอดเลือดสมอง, เบาหวาน และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งบางชนิด การลดน้ำหนักเพียงร้อยละ 5-10 ด้วยการคุมอาหารและออกกำลังกาย ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้มากในผู้ที่มีภาวะดังกล่าว[2]

แนวทางการรักษาโรคอ้วนมีหลายทางเลือก ตั้งแต่การควบคุมอาหารและปรับพฤติกรรม การออกกำลังกาย การลดน้ำหนักด้วยวิธีรับประทาน การผ่าตัดกระเพาะอาหารในผู้ที่มีภาวะอ้วนรุนแรง และล่าสุดคือ การใช้เวชภัณฑ์ฉีดเพื่อช่วยควบคุมน้ำหนัก

“สิ่งสำคัญที่สุดคือ ไม่ควรซื้อยาลดน้ำหนักมาใช้เอง เพราะอาจเกิดอันตรายรุนแรงต่อสุขภาพ การใช้เวชภัณฑ์ลดน้ำหนักไม่ว่าจะเป็นแบบรับประทานหรือฉีด จำเป็นต้องเลือกที่ได้รับการรับรองคุณภาพอย่างถูกต้องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะแพทย์จะช่วยประเมินสุขภาพ กำหนดขนาดยา ปรับแผนการรักษาเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา” นพ.ชเนษฎ์ กล่าว

ล่าสุด มีนวัตกรรมลดน้ำหนักที่มีตัวยาเซมากลูไทด์ (semaglutide) ซึ่งทำงานเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ในร่างกาย ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความอยากอาหาร ส่งผลให้สามารถลดน้ำหนักได้ โดยได้รับการอนุมัติจาก FDA สหรัฐอเมริกาและประเทศไทยให้ใช้สำหรับ chronic weight management

หรือในการลดน้ำหนักร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปที่มีภาวะอ้วน (BMI ≥ 30 kg/m²) หรือผู้ที่มีน้ำหนักเกิน (BMI ≥ 27 kg/m²) ร่วมกับมีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานชนิดที่ 2 หรือไขมันในเลือดสูง[3]
การรักษาด้วยเวชภัณฑ์ฉีดที่ได้มาตรฐานจึงไม่ใช่เพียง “เทรนด์” แต่เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในระยะยาว หากอยู่ภายใต้การติดตามของแพทย์

[1] https://secretary.prd.go.th/th/content/category/detail/id/9/iid/370261
[2] https://www.fda.gov/news-events/press-announcements/fda-approves-new-drug-treatment-chronic-weight-management-first-2014
[3] http://www.medi.co.th/news_detail.php?q_id=348

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top