ปัจจุบันภาวะอ้วนไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาด้านรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เชื่อมโยงกับโรคร้ายหลายชนิด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และไขมันในเลือดสูง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ หลายคนหันมาใช้โปรแกรมลดน้ำหนักหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการใช้ Weight Loss Medication ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงหลัง แต่การใช้ยาโดยปราศจากคำแนะนำอาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิด และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ การลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและยั่งยืน ควรเริ่มจากการปรับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพอย่างสมดุล ซึ่งจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืนและมีสุขภาพดีในระยะยาว
โรคอ้วนคืออะไร และส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร
โรคอ้วน คือ ภาวะที่ร่างกายสะสมไขมันมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยปกติจะวัดจากดัชนีมวลกาย (BMI) หาก BMI มากกว่า 30 จะจัดอยู่ในกลุ่มอ้วน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคร่วมต่างๆ เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ โรคหัวใจ รวมถึงปัญหาทางสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า ความเครียด และความมั่นใจในตัวเองลดลง
แนวทางดูแลภาวะอ้วนมีอะไรบ้าง
- การประเมินสุขภาพโดยทีมที่มีความรู้ ตรวจค่าร่างกาย เช่น น้ำหนัก ไขมัน ความดัน และพฤติกรรมการกิน
- ปรับพฤติกรรมการกินและการเคลื่อนไหว ไม่เน้นอดอาหาร แต่เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับร่างกาย
- การดูแลจิตใจร่วมด้วย ความเครียด ความกดดัน ส่งผลต่อพฤติกรรมการกินและน้ำหนัก
- การเลือกทานอาหารเสริม เช่น วิตามิน หรือยาภายใต้การประเมินและติดตามผลอย่างใกล้ชิด
โปรแกรมลดน้ำหนัก (Weight Loss Medication) คืออะไร?
โปรแกรมลดน้ำหนักด้วยการใช้ยา หรือ Weight Loss Medication เป็นแนวทางหนึ่งในการดูแลภาวะอ้วน โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะอ้วนร่วมกับโรคประจำตัว หรือผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล โดยยาจะทำงานผ่านกลไก เช่น ลดความอยากอาหาร กระตุ้นการเผาผลาญ หรือเพิ่มความรู้สึกอิ่ม
โปรแกรมการลดความอ้วนมีกี่ประเภท และทำงานอย่างไร?
- ยากดความอยากอาหาร ทำงานผ่านสมองส่วนที่ควบคุมความหิว เช่น กลุ่มยาที่มีส่วนประกอบของ Phentermine หรือยาที่เลียนแบบฮอร์โมน GLP-1
- ยาชะลอการดูดซึมไขมัน เช่น Orlistat ทำให้ไขมันบางส่วนไม่ถูกดูดซึมออกไปกับของเสีย
- ยาที่มีผลต่อระบบประสาท ออกฤทธิ์ต่อสมองและฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการควบคุมความอยากอาหาร แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง
- โปรแกรมที่ใช้ร่วมกับวิตามินหรือสารอาหารเสริม เพื่อไม่ให้ร่างกายอ่อนล้าหรือขาดสมดุล
ปัญหาที่พบบ่อยจากการใช้โปรแกรมลดน้ำหนักโดยไม่มีคำแนะนำ
- ใช้ยาที่ไม่ได้รับอนุญาต มีความเสี่ยงสูงต่อสุขภาพ เช่น ผลข้างเคียงทางหัวใจ หรือระบบประสาท
- ไม่มีการประเมินภาวะสุขภาพ ทำให้ใช้ยาเกินความจำเป็น หรือไม่ตรงกับปัญหา
- คาดหวังผลลัพธ์เร็วเกินไป เมื่อไม่เห็นผลทันใจ จึงหันไปใช้วิธีเร่งรัดที่อันตราย
- ใช้หลายสูตรผสมกันโดยไม่มีการติดตาม เพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน
ข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่ควรรู้
ผลข้างเคียงที่อาจพบ เช่น คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ใจสั่น หรือระบบขับถ่ายแปรปรวน รวมถึงยาบางชนิดอาจกระทบต่อหัวใจ ความดัน หรือสมอง และเมื่อมีการหยุดใช้ยาอาจเกิดภาวะโยโย่หลังหยุดยา หากไม่มีการปรับพฤติกรรมร่วมด้วย
การเลือกใช้โปรแกรมลดน้ำหนักอย่างเหมาะสม
- ควรปรึกษาทีมที่มีความรู้ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือคลินิกที่มีแนวทางการประเมินและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
- หลีกเลี่ยงการซื้อยาจากแหล่งออนไลน์ หรือผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต
- ต้องมีการตรวจร่างกาย และติดตามผลเพื่อป้องกันผลข้างเคียงระยะยาว
“โปรแกรมลดน้ำหนักไม่ใช่ทางลัด แต่เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพ” การใช้โปรแกรมลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยควรเป็นหนึ่ง ในแผนการดูแลสุขภาพระยะยาว ไม่ใช่แค่การลดน้ำหนักชั่วคราว โปรแกรมที่ดีจะช่วยวางพื้นฐานใหม่ให้ร่างกาย สามารถควบคุมน้ำหนักได้ด้วยตัวเอง แม้หลังจบโปรแกรมแล้วก็ตาม
Weight Loss Medication เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้ การดูแลน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำ และการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ โปรแกรมที่ดีไม่ใช่การลดเร็วที่สุด แต่คือการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย ควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อให้สุขภาพดีในระยะยาว
วิธีติดต่อ/จองโปรแกรม
SCMC Clinic Bangkok (Srisukho Clinic of Mahanakhon Center) พร้อมให้คำแนะนำและประเมินสภาพผิวเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ( โปรแกรมของเราไม่ใช่การขายยา )
- โทรศัพท์: 097 428 2999
- สายด่วน: 097 428 2999
- LINE Official: @msc.skin
- เว็บไซต์: https://scmcthailand.com
- ช่องทางอื่นๆ เช่น tiktok, line, IG, facebook ให้ทักเราเพื่อรับลิงค์เข้าชม
แนะนำให้จองล่วงหน้าเพื่อรับบริการตรงเวลา และได้รับการดูแลอย่างเต็มที่จากผู้มีประสบการณ์เฉพาะทาง


กองบรรณาธิการ : นายแพทย์ชเนษฎ์ ศรีสุโข
ผู้ช่วยบรรณาธิการ: นางสาว ชญานิศ แต้นุเคราะห์, นางสาว ชลลดา สาลี, และ นางสาว กรรวี กิตติชัยดำรง