SCMC CLINIC

แนะนำ Zepbound ตัวช่วยป้องกันโรคน้ำหนักเกินที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงโรคร้าย

แนะนำ Tirzepatide ตัวช่วยป้องกันโรคน้ำหนักเกินที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงโรคร้าย

หลายคนอาจมองว่า “ความอ้วน” หรือ “น้ำหนักเกิน” เป็นเรื่องเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอก แต่ในทางการแพทย์ น้ำหนักตัวที่มากเกินไปเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพภายใน ไม่ว่าจะเป็นระบบเผาผลาญ ระบบหัวใจ และแม้แต่การทำงานของฮอร์โมน เมื่อปล่อยให้น้ำหนักเกินต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันพอกตับ โรคหัวใจ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ รวมถึงภาวะข้อเสื่อมจากน้ำหนักที่กดทับข้อต่อ
ทางเลือกใหม่ในการควบคุมน้ำหนักที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วงการแพทย์ได้มีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยในการควบคุมน้ำหนักให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีน้ำหนักเกินและลดน้ำหนักเองไม่สำเร็จ หนึ่งในนั้นคือ Tirzepatide ยากลุ่มใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำหนักเกินระดับปานกลางถึงรุนแรง หรือลดน้ำหนักด้วยตัวเองหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ Tirzepatide ทำงานโดยช่วยควบคุมความอยากอาหาร ชะลอการเคลื่อนตัวของอาหารในระบบทางเดินอาหาร และช่วยปรับสมดุลระบบเผาผลาญ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดน้ำหนักแบบไม่หักโหม

การทำงานของยาช่วยลดความหิวทำงานอย่างไร

ตัวยา tirzepatide ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการควบคุมน้ำหนัก โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน และมักใช้ในผู้ที่มีโรคร่วม เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 ตัวยาทำงานโดยเลียนแบบการทำงานของ ฮอร์โมน GLP-1 และ GIP ซึ่งเป็นฮอร์โมนในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความอยากอาหารและระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น กินได้น้อยลง โดยไม่ต้องฝืนอดอาหารแบบเดิม ไม่ใช่แค่ลดน้ำหนัก แต่ช่วยลดความเสี่ยงของโรค

ประโยชน์ของ Tirzepatide ไม่ได้จบแค่เรื่องตัวเลขบนเครื่องชั่ง แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะเสี่ยงจากน้ำหนักเกิน ดังนี้

  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ช่วยควบคุมระดับกลูโคสในเลือด ลดภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของเบาหวานชนิดที่ 2
  • ความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือด เมื่อน้ำหนักลด ความดันและไขมันในเลือดมักลดตาม ส่งผลดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
  • ไขมันพอกตับ มีงานวิจัยสนับสนุนว่า Tirzepatide ช่วยลดไขมันสะสมในอวัยวะภายใน เช่น ตับ ซึ่งมักพบในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุง
  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) แม้การลดน้ำหนักเพียง 5–10% ก็สามารถช่วยให้อาการ OSA ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพการนอนและสุขภาพในระยะยาว

เหมาะกับใครบ้าง

Tirzepatide ไม่ใช่ยาสำหรับทุกคน แต่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน และมีข้อจำกัดในการลดน้ำหนักด้วยวิธีทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเข้าข่ายโรคอ้วน โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มมีความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน หรือไขมันในเลือดผิดปกติ
  • ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีเดิมแล้วไม่สำเร็จ เช่น พยายามควบคุมอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ยังลดน้ำหนักไม่ได้ตามเป้าหมาย
  • ผู้ที่มีภาวะดื้ออินซูลิน หรือเป็นเบาหวานชนิดที่ 2  เพราะ Tirzepatide ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและลดภาวะดื้ออินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผู้ที่มีไขมันในช่องท้องสูง (Visceral Fat) แม้รูปร่างจะไม่ดูอ้วนชัดเจน แต่ไขมันสะสมในช่องท้องเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวาน และไขมันพอกตับ

ข้อควรรู้ก่อนใช้ Tirzepatide

แม้ว่า Tirzepatide จะเป็นยาฉีดเพียง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และได้รับการยอมรับว่าช่วยควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ใช่ยาที่ควรใช้เองโดยไม่มีคำแนะนำทางการแพทย์

  • ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ก่อนเริ่มใช้ แพทย์จะต้องประเมินสภาพร่างกายโดยละเอียด เพื่อดูว่าคุณเหมาะกับการใช้ยาหรือไม่ มีโรคประจำตัวหรือข้อห้ามที่ควรระวังหรือเปล่า
  • ต้องมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง อาจต้องมีการปรับขนาดยา (โดส) ตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และต้องเฝ้าระวังอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา
  • ไม่ควรซื้อใช้เอง แม้จะมีข้อมูลเผยแพร่ในโซเชียลหรือช่องทางต่างๆ แต่การซื้อยามาใช้เองโดยไม่ผ่านแพทย์ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น และไม่ได้ผลอย่างที่ควร

ดูแลสุขภาพดี เริ่มได้ที่ตัวเราเอง

การควบคุมความอยากอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดยังต้องมาจาก การปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ลดหวาน มัน เค็ม

เพราะการลดน้ำหนักที่ยั่งยืน ไม่ได้เกิดจาก “ยา” เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก “การเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิต” Tirzepatide จึงไม่ใช่แค่ยาลดน้ำหนักธรรมดา แต่เป็น ทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่

  • เคยพยายามลดน้ำหนักเองแล้วไม่สำเร็จ
  • เริ่มมีความเสี่ยงด้านสุขภาพจากน้ำหนักเกิน
  • ต้องการป้องกันโรคเรื้อรังก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง

หากคุณอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ การเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ อาจเป็นก้าวเล็กๆ ที่ช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ในอนาคต เพราะบางครั้ง การ “เริ่มให้ถูกทาง” ก็ช่วยให้สุขภาพดีอย่างยั่งยืนได้ง่ายกว่าที่คิด

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top