การลดน้ำหนักอาจยังไม่เคยได้ยินชื่อ Tirzepatide แต่สำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินเรื้อรัง โดยเฉพาะเมื่อมีโรคร่วมอย่างเบาหวานชนิดที่ 2 หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA – Obstructive Sleep Apnea) นี่คือชื่อที่น่าจะเริ่มคุ้นหูมากขึ้นเรื่อย ๆ
Tirzepatide ไม่ได้เป็นแค่ยาลดน้ำหนักทั่วไป แต่มีบทบาทเชิงลึกในการฟื้นฟูระบบเผาผลาญ ควบคุมระดับน้ำตาล และอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคร่วมเหล่านี้ได้ในระยะยาว
Tirzepatide (ชื่อทางการค้า: Zepbound) คืออะไร และทำงานอย่างไร
Zepbound คือ ชื่อทางการค้าของตัวยา Tirzepatide ที่พัฒนาโดยเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมน 2 ชนิดในร่างกาย คือ GLP-1 และ GIP ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความอยากอาหาร และชะลอการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น กินน้อยลงโดยไม่ต้องอดอาหารหรือฝืนตัวเองเกินไป
ในสหรัฐอเมริกา Tirzepatide ได้รับการอนุมัติจาก FDA ให้ใช้ทั้งในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และในผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะคนที่มีโรคร่วม เช่น ความดันโลหิตสูง หรือ OSA
Tirzepatide กับ โรคเบาหวาน
การควบคุมเบาหวานเป็นเรื่องยาก คือพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนยาก ความอยากอาหารที่มากเกินไป และภาวะดื้อต่ออินซูลินในร่างกาย ซึ่ง Tirzepatide สามารถช่วยลดระดับกลูโคสในเลือดได้อย่างต่อเนื่อง และลดระดับอินซูลินที่ร่างกายผลิตเกินความจำเป็น
ผู้ที่ใช้ Tirzepatide ในระยะยาวพบว่า HbA1c ลดลง และการควบคุมน้ำตาลในเลือดมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เบาหวานขึ้นตา ไตเสื่อม หรือหลอดเลือดหัวใจตีบ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
Tirzepatide กับ OSA
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจหย่อนตัว ส่งผลให้หายใจติดขัดขณะหลับ และเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของคนที่มีภาวะอ้วนโดยเฉพาะไขมันสะสมบริเวณลำคอ แม้การใช้เครื่องช่วยหายใจขณะนอน (CPAP) จะเป็นวิธีรักษาหลักในปัจจุบัน แต่หากสามารถลดน้ำหนักลงได้ 5–10% อย่างมีคุณภาพ อาการของ OSA จะดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่ง Tirzepatide เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้ผู้ป่วยลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย ควบคู่กับการควบคุมระดับน้ำตาล ทำให้หลายคนสามารถลดการพึ่งพา CPAP หรือหลับได้ลึกขึ้นโดยไม่สะดุ้งตื่นกลางคืน
ระยะปลอดภัยและผลลัพธ์ Tirzepatide
ยาฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เริ่มจากขนาดต่ำสุดเพื่อให้ร่างกายปรับตัว ก่อนเพิ่มขนาดตามความเหมาะสม โดยควบคู่กับคำแนะนำด้านโภชนาการ การพักผ่อน และการเคลื่อนไหวที่พอดี
สิ่งที่ควรทำควบคู่ คือ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีและลดอาการข้างเคียง
- นอนหลับอย่างน้อย 6–7 ชั่วโมงต่อคืน ส่งเสริมการฟื้นฟูและสมดุลของร่างกาย
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันและน้ำตาลสูง ช่วยให้ผลการลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- จดบันทึกการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก ความอยากอาหาร และระดับพลังงานในแต่ละวัน เพื่อช่วยติดตามผลและปรับแผนการรักษาได้เหมาะสม
ผลข้างเคียงที่อาจพบ
เช่นเดียวกับยาทุกชนิด Tirzepatide อาจมีผลข้างเคียงช่วงแรก เช่น คลื่นไส้ เบื่ออาหาร หรือรู้สึกแน่นท้อง แต่ส่วนใหญ่อาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะถ้าเริ่มจากขนาดยาที่เหมาะสมและมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
Tirzepatide ไม่ใช่แค่ยาลดน้ำหนักแต่มันเป็นนวัตกรรมที่ดูแลสุขภาพได้หลายด้าน ทั้งการควบคุมน้ำหนัก ระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยลดอาการของโรค OSA สำหรับใครที่เคยลองลดน้ำหนักมาแล้วไม่เห็นผล หรือมีปัญหาเรื่องโรคร่วมเหล่านี้
Tirzepatide อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้คุณจัดการกับสุขภาพได้อย่างครบถ้วน แต่ก็อย่าลืมว่าการใช้มันควรอยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย
หากคุณสนใจโปรแกรมควบคุมน้ำหนักเฉพาะบุคคล หรืออยากเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างจริงจัง อย่าลังเลที่จะปรึกษาเรา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและยั่งยืน
ติดต่อสอบถาม SCMC Clinic Bangkok (Srisukho Clinic of Mahanakhon Center) พร้อมให้คำแนะนำและประเมินโดยแพทย์ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทรศัพท์: 097 428 2999
LINE Official: @msc.skin
Facebook: MALI CLINIC Silom3 BY Doctor Gla
IG : maliclinic.silom3
Tiktok : @maliclinic.silom3
Website : https://scmcthailand.com
แนะนำให้จองล่วงหน้าเพื่อรับบริการตรงเวลา และได้รับการดูแลอย่างเต็มที่จากผู้มีประสบการณ์เฉพาะทาง