SCMC CLINIC

Facial care, freckles, dark spots

บริการด้านความงาม

โบกมือลาปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เผยใบหน้าเนียนใสยิ่งกว่าเดิม

ฝ้า กระ กวนใจ เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่สร้างความรำคาญใจให้กับเราไม่น้อยเลย จะดีกว่าไหมถ้าเรามีวิธีดูแลกระ ฝ้า ที่ปลอดภัยและได้ผล เพื่อให้ใบหน้าของเรากลับมาเรียบเนียน ดูกระจ่างใสได้อีกครั้ง

เห็นฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้าทีไรเป็นต้องแต่งหน้ากลบให้มิดแทบทุกครั้ง แต่ในวันที่อยากเปลือยหน้าสวย ๆ พอเห็นริ้วรอยเหล่านี้ก็พาลให้หมดความมั่นใจไปซะทุกรอบ ถึงเวลาแล้วที่การดูแลฝ้า กระ จุดด่างดำต้องเข้า เรามาดูกันดีกว่าว่าจะกำจัดปัญหาเหล่านี้แบบอยู่หมัดได้อย่างไร และมีวิธีการไหนที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นอีก

ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ_0

ฝ้า และกระ คืออะไร มีกี่ประเภท

ฝ้า และกระ มีสาเหตุการเกิดใกล้เคียงกัน คือ มาจากเมลานินหรือเซลล์สร้างเม็ดสีของเราผลิตเม็ดสีออกมาไม่สม่ำเสมอ หรือโดนแสงแดดมากเกินไปจนเมลานินถูกกระตุ้นให้สร้างออกมามากขึ้นเพื่อซึมซับรังสียูวี ส่งผลให้ความเข้มอ่อนของเม็ดสีแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ในรายละเอียด ทั้งฝ้า และกระมีความแตกต่างกัน คือ

มีลักษณะเป็นแผ่น หรือเป็นปื้นสีอ่อนไปจนกระทั่งสีเข้ม มักเห็นได้ชัดบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก คาง รวมไปถึงแขน และลำคอ แบ่งเป็นประเภทย่อย ๆ ออกเป็น 3 ประเภท คือ

ฝ้าแดด เกิดจากแสงแดด หรือรังสีต่าง ๆ หากเราทาครีมกันแดดไม่เพียงพอก็อาจทำให้ฝ้าแดดสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ
ฝ้าตื้น เกิดจากเมลานินสร้างเม็ดสีผิดปกติบนชั้นหนังกำพร้า ทำให้เป็นรอยปื้นสีน้ำตาลเข้ม หรือดำ และเห็นขอบชัดเจน
ฝ้าลึก เกิดจากเมลานินสร้างเม็ดสีผิดปกติอีกเช่นกัน แต่อยู่ใต้ชั้นผิว มีสีน้ำตาลอ่อน และมักกลืนไปกับผิวหน้า รักษายาก และอาจต้องปรึกษาแพทย์หากต้องการรักษาให้จางลง

มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ เห็นขอบชัดเจน และกระจายอยู่ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้ม และหน้าผาก แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

กระแดด เป็นกระที่เกิดจากการที่ผิวหน้าโดนแสงแดดเป็นเวลนาน มักเป็นดวงสีน้ำตาลเข้ม ผิวเรียบ
กระเนื้อ มีลักษณะเป็นก้อนนูนเล็ก ๆ มีทั้งสีเนื้อ สีน้ำตาล และดำ มักเกิดจากพันธุกรรม
กระตื้น มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาล เกิดจากผิวโดนแดดเป็นเวลานาน มักพบบ่อยในคนผิวขาว
กระลึก มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล หรือดำ เกิดที่ใต้ชั้นผิวลึก มักพบบริเวณโหนกแก้มมากที่สุด

พฤติกรรมที่ทำให้เกิดฝ้า กระ มีอะไรบ้าง

  • ไม่ทาครีมกันแดด หรือทาไม่เพียงพอ สาเหตุหลักของการเกิดฝ้า กระ มาจากการที่ผิวโดนแสงแดดทำร้าย หากเราไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ หรือทาแล้วแต่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้รังสียูวีทำร้ายผิวโดยตรงจนเกิดเป็นฝ้า กระได้
  • เครียด พักผ่อนน้อย ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดสารอนุมูลอิสระขึ้นในร่างกาย กลายเป็นการเร่งการผลิตเม็ดสีเมลานินใต้ชั้นผิวจนเกิดเม็ดสีไม่สม่ำเสมอขึ้นอีกทางหนึ่ง
  • ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนเองก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินในร่างกายได้เช่นกัน พบได้มากในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่กินยาคุมกำเนิด
  • การกินยาบางชนิด ที่อาจไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน
  • การสครับผิวมากเกินไป อาจส่งผลให้ผิวบางจนเมื่อเจอแสงแดด อาจทำให้เกิดฝ้า และกระง่ายขึ้น

วิธีการดูแลกระ ฝ้า จุดด่างดำ

  • ใช้ครีมลดฝ้า กระ ส่วนใหญ่เป็นครีมที่มีส่วนผสมช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน หรือมีส่วนผสมจากไวท์เทนนิ่ง เพื่อให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น รอยฝ้า และกระดูจางลง
  • การผลัดเซลล์ผิว โดยใช้สารที่มีความเป็นกรดเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และมีความหมองคล้ำออก แต่ขั้นตอนนี้ไม่ควรทำบ่อยเพราะอาจทำให้ผิวหน้าบางลงจนเป็นฝ้า กระได้ง่ายกว่าเดิม
  • ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ การทาครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีอย่างได้ผล แต่ควรทาให้ถูกวิธี ในปริมาณที่เหมาะสม และสม่ำเสมอด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรพกครีมกันแดดไปทาระหว่างวันด้วย
  • การทำเลเซอร์กระ ฝ้า การทำเลเซอร์เป็นหนึ่งในหัตถการด้านความงามที่เห็นผลไว มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องพักฟื้นนาน โดยการเลเซอร์จะเป็นการปล่อยคลื่นพลังงานความเข้มข้นสูงไปยังบริเวณที่ต้องการกำจัดเม็ดสี และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ผิวจึงดูเรียบเนียน กระจ่างใส รอยฝ้า และกระดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด
  •  

ผลลัพธ์จากผู้ใช้บริการ​

More than 250 five-star reviews on Google

คำถามที่พบบ่อย

การลดกระ ฝ้า จุดด่างดำด้วยเลเซอร์ ให้ผลถาวรไหม

การลดเลือนรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำให้หายไปถาวรเป็นเรื่องยาก เพราะปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดรอยเหล่านี้มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน หากยังมีพฤติกรรมเดิม รวมไปถึงโดนแสงแดดบ่อยก็มีโอกาสให้เกิดฝ้า กระซ้ำขึ้นได้ แต่ถึงอย่างนั้นการเลเซอร์ก็ช่วยให้ฝ้า กระจางหายไปอย่างรวดเร็ว และป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

ขึ้นอยู่กับประเภท และความลึก แต่หลังทำเลเซอร์ไปแล้วสามารถเห็นผลได้ทันที และถ้ารักษาต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์ รอยไม่พึงประสงค์เหล่านั้นจะค่อย ๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลเคสก่อนทุกครั้งจะดีที่สุด

Scroll to Top