คำว่า “อ้วน” เป็นแค่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก แต่ในความเป็นจริง ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน คือหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่ซ่อนตัวเงียบ ๆ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง
หากคุณเคยพยายามลดน้ำหนักด้วยตัวเองมาหลายวิธี ทั้งอดอาหาร คุมแคลอรี หรือออกกำลังกายมาอย่างหนัก แต่ยังไม่สามารถจัดการกับน้ำหนักตัวได้อย่างที่ตั้งใจไว้ การเริ่มต้นด้วย Obesity Treatment ภายใต้การดูแลที่ถูกต้อง อาจเป็นทางออกที่ปลอดภัยและยั่งยืนมากกว่าที่คุณคิด
เข้าใจ “โรคอ้วน” ให้ลึกกว่าตัวเลขบนตาชั่ง
ภาวะอ้วนไม่ได้หมายถึงแค่การมีน้ำหนักตัวมากเท่านั้น แต่คือการที่ร่างกายสะสมไขมันมากเกินความจำเป็น โดยเฉพาะไขมันในช่องท้องหรือไขมันที่พอกตามอวัยวะภายใน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคเรื้อรังหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ และโรคหัวใจ
โดยทั่วไป ภาวะอ้วนสามารถประเมินเบื้องต้นได้จากค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ที่มากกว่า 30 หรือดูจากรอบเอวที่เกินเกณฑ์มาตรฐาน เช่น ผู้ชายเกิน 90 เซนติเมตร และผู้หญิงเกิน 80 เซนติเมตร
อย่างไรก็ตาม บางคนแม้จะดูไม่อ้วนจากภายนอก แต่ก็อาจมีไขมันสะสมภายในในระดับที่เป็นอันตราย ซึ่งเรียกว่า “ภาวะอ้วนแฝง” (Hidden Obesity) ได้เช่นกัน
การเข้าใจโรคอ้วนให้ลึกซึ้งกว่าตัวเลขบนตาชั่ง คือกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน
Obesity Treatment คืออะไร
Obesity Treatment หรือโปรแกรมดูแลภาวะอ้วน คือกระบวนการรักษาแบบองค์รวมที่มีเป้าหมายไม่ใช่แค่ลดน้ำหนัก แต่เพื่อปรับสมดุลของระบบภายในร่างกายให้กลับมาทำงานปกติ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ การแพทย์ และพฤติกรรมสุขภาพ
โปรแกรมนี้มักประกอบด้วยหลายองค์ประกอบ เช่น
- การประเมินสุขภาพแบบละเอียดก่อนเริ่ม
- การวางแผนโภชนาการเฉพาะบุคคล
- การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม
- การดูแลด้วยเทคโนโลยีเสริม เช่น ยาควบคุมความอยากอาหาร หรือยาฉีดลดน้ำหนักที่ได้รับอนุมัติ
- การติดตามผลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง
เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนระดับต้น-กลาง
- ผู้ที่เคยลดน้ำหนักเองแล้วล้มเหลวหลายครั้ง
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรังร่วม เช่น เบาหวาน ความดัน หรือไขมันในเลือด
- ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือเหนื่อยง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ผู้ที่ต้องการแนวทางที่มีทีมดูแลจริงจังและไม่อยากพึ่งวิธีเร่งรัดอันตราย
สิ่งที่ต่างจากการลดน้ำหนักทั่วไป
Obesity Treatment ไม่ใช่การลดแบบอดอาหารหรือไดเอตสุดโต่ง แต่คือการดูแลอย่างเข้าใจระบบในร่างกาย ตั้งแต่ฮอร์โมน ความเครียด การนอน ไปจนถึงปัจจัยแวดล้อมที่ทำให้ลดน้ำหนักเองไม่ได้ผล ทุกขั้นตอนมีแพทย์หรือผู้ดูแลคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด จึงปลอดภัย ไม่ทำให้ระบบเผาผลาญพัง หรือเกิดภาวะโยโย่หลังจากหยุดดูแล
โรคอ้วนไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ใช่เรื่องที่ต้องละอาย แต่คือสัญญาณที่ร่างกายกำลังขอความช่วยเหลือ และคุณไม่จำเป็นต้องจัดการมันคนเดียว ถ้าคุณรู้สึกว่า “พยายามมาหลายวิธีแล้วแต่ยังไม่เห็นผล” หรือ “ไม่รู้จะเริ่มยังไงให้ถูก” การเข้ารับการดูแลผ่าน Obesity Treatment อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้จริง เพราะสามารถช่วยให้คุณควบคุมสุขภาพของตัวเองอย่างปลอดภัยและเห็นผลได้อย่างชัดเจน
หากคุณสนใจโปรแกรมควบคุมน้ำหนักเฉพาะบุคคล หรืออยากเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างจริงจัง อย่าลังเลที่จะปรึกษาเรา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและยั่งยืน
ติดต่อสอบถาม SCMC Clinic Bangkok (Srisukho Clinic of Mahanakhon Center) พร้อมให้คำแนะนำและประเมินโดยแพทย์ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
TEL : 097 428 2999
LINE Official : @msc.skin หรือ Click : https://lin.ee/AYsGNwz
WEBSITE : https://scmcthailand.com
FB : MALI CLINIC Silom3 BY Doctor Gla
IG : maliclinic.silom3
Tiktok : @maliclinic.silom3
แนะนำให้จองล่วงหน้าเพื่อรับบริการตรงเวลา และได้รับการดูแลอย่างเต็มที่จากผู้มีประสบการณ์เฉพาะทาง


