SCMC CLINIC

โบท็อกซ์ vs. ฟิลเลอร์ vs. เลเซอร์

โบท็อกซ์ vs. ฟิลเลอร์ vs. เลเซอร์ เลือกอะไรดีให้ตอบโจทย์ผิว?

การดูแลตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ และการมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์และผิวที่ดูสุขภาพดีไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยนวัตกรรมด้านความงามที่มีให้เลือกมากมายในปัจจุบัน แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น การตัดสินใจเลือกว่า โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือ เลซอร์หน้าใส อาจเป็นเรื่องที่น่าสับสน เพราะทั้ง 3 วิธีต่างก็เป็นหัตถการที่จะช่วยเสริมความงามได้เหมือนกัน มีหลักการทำงานและเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เราจะพาไปทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละวิธีแบบเจาะลึก เพื่อให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่ใช่สำหรับปัญหาผิวของคุณได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยได้

โบท็อกซ์ (Botox)

โบท็อกซ์ ตัวช่วยลดริ้วรอย แต่ในความเป็นจริงแล้ว โบท็อกซ์ คือ ชื่อทางการค้าของสาร โบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่สกัดจากแบคทีเรีย มีคุณสมบัติพิเศษในการลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว สารโบทูลินัมจะเข้าไปจับกับปลายประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว จึงไม่สามารถหดตัวได้มากเหมือนปกติ

หลักการทำงาน โบท็อกซ์มีหน้าที่หลักในการแก้ไขริ้วรอยที่เกิดจากการขยับของกล้ามเนื้อ หรือที่เรียกว่า Dynamic Wrinkles ซึ่งมักจะเห็นชัดขึ้นเมื่อเราแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น

  • รอยตีนกา ริ้วรอยที่หางตาเมื่อเรายิ้มหรือหัวเราะ
  • รอยย่นหน้าผาก ริ้วรอยที่เกิดขึ้นเมื่อเราเลิกคิ้ว
  • รอยขมวดคิ้ว ริ้วรอยระหว่างคิ้วที่ทำให้ใบหน้าดูดุ

นอกจากนี้ โบท็อกซ์ยังสามารถนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น การลดขนาดกล้ามเนื้อกรามเพื่อให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น การลดเหงื่อบริเวณรักแร้หรือฝ่ามือ และการรักษาภาวะปวดไมเกรน

ผลลัพธ์และความคงทน หลังฉีดจะเริ่มเห็นผลภายใน 1-2 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และต้องกลับมาฉีดซ้ำเมื่อยาหมดฤทธิ์

เหมาะกับใคร

  • คนที่มีริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ที่เห็นได้ชัด
  • คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียว V-Shape โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • คนที่มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่
  • คนที่มีปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ

ฟิลเลอร์ (Filler)

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มผิว ส่วนใหญ่ผลิตจากสาร ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า HA ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้ว สารนี้จะเข้าไปช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและมีวอลุ่มขึ้นทันที

หลักการทำงาน ฟิลเลอร์ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขริ้วรอยร่องลึก ที่เกิดขึ้นจากผิวที่ยุบตัวลงไปตามวัย หรือที่เรียกว่า Static Wrinkles ซึ่งเป็นริ้วรอยที่มองเห็นได้ตลอดเวลาแม้ในขณะที่เราไม่ได้แสดงสีหน้า เช่น

  • ร่องแก้ม ร่องที่ลึกขึ้นตามวัย ทำให้ใบหน้าดูแก่
  • ร่องใต้ตา ใต้ตาที่ลึกและดูคล้ำ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้า
  • ขมับที่ตอบ ขมับที่ยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าดูซูบผอม

นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถใช้เพื่อปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สวยงามมากขึ้น เช่น การฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อให้ใบหน้าดูสมดุล การเติมริมฝีปากให้อวบอิ่มขึ้น หรือการเติมเต็มร่องลึกบริเวณหน้าผากและแก้มตอบ

ผลลัพธ์และความคงทน สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด และผลลัพธ์จะชัดเจนยิ่งขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์เมื่อสารฟิลเลอร์เข้าที่ โดยจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด

เหมาะกับใคร

  • คนที่มีริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า
  • คนที่ต้องการเติมเต็มส่วนที่ยุบตัวไปตามวัย
  • คนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนโดยไม่ต้องผ่าตัด เช่น เสริมคาง หรือเติมปาก
  • คนที่ต้องการแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา

เลเซอร์หน้าใส (Laser Facial) ฟื้นฟูผิวและจัดการเม็ดสี

เลเซอร์หน้าใส คือ การใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์พลังงานสูงยิงลงบนผิว เพื่อแก้ไขปัญหาผิวที่อยู่บนชั้นผิวหนังโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ รอยดำ รอยแดง หรือปัญหาผิวหมองคล้ำ

หลักการทำงาน หลักการของเลเซอร์หน้าใส คือ การส่งพลังงานแสงลงไปในชั้นผิว เพื่อจัดการกับเป้าหมายที่แตกต่างกันตามชนิดของเลเซอร์

  • เลเซอร์เพื่อลดเม็ดสี เลเซอร์จะเข้าไปทำลายเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ที่รวมตัวกันเป็นฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ ทำให้รอยเหล่านี้จางลง
  • เลเซอร์เพื่อผลัดเซลล์ผิว เลเซอร์บางชนิดช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไป ทำให้เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและเรียบเนียนกว่าเดิม
  • เลเซอร์เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน พลังงานความร้อนจากเลเซอร์จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ทำให้ผิวดูแน่นขึ้น รูขุมขนกระชับ และริ้วรอยเล็ก ๆ ดูตื้นขึ้น

ผลลัพธ์และความคงทน สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นเมื่อทำต่อเนื่องกันหลายครั้งตามคำแนะนำของแพทย์ โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานขึ้นหากดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงแสงแดด

เหมาะกับใคร

  • คนที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส
  • คนที่มีปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว ฝ้า หรือกระ
  • คนที่ต้องการกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น
  • คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูเปล่งปลั่งและสุขภาพดี

การตัดสินใจเลือกทำหัตถการความงามควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจปัญหาผิวที่แท้จริงของคุณ

  • หากมีความกังวลเรื่องริ้วรอย เช่น ตีนกา หน้าผากย่น โบท็อกซ์ คือ คำตอบ
  • หากมีร่องลึกหรือต้องการเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เช่น ร่องแก้ม ใต้ตาลึก เลือกเติมด้วยฟิลเลอร์

ถ้าคุณมีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือมีรอยดำจากสิว เลเซอร์หน้าใสช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาได้
สรุปไม่ว่าจะเลือกวิธีใด การปรึกษาแพทย์ด้านผิวหนังและความงาม เพื่อให้แพทย์สามารถวิเคราะห์สภาพผิวของคุณได้อย่างแม่นยำ และแนะนำหัตถการที่เหมาะสมกับคุณที่สุด พร้อมทั้งเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามความต้องการของตัวเราเองด้วยครับ

ติดต่อสอบถาม SCMC Clinic Bangkok (Srisukho Clinic of Mahanakhon Center) พร้อมให้คำแนะนำและประเมินโดยแพทย์ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

แนะนำให้จองล่วงหน้าเพื่อรับบริการตรงเวลา และได้รับการดูแลอย่างเต็มที่จากผู้มีประสบการณ์เฉพาะทาง

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top