วิธีเลือกโบท็อกซ์ให้เหมาะกับอายุและปัญหาผิวหน้า

การจะเลือกทำโบท็อกซ์อย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ สำหรับวัย

1. สำหรับช่วงอายุ 20-30 ปี เน้นการป้องกันและปรับรูปหน้า ผิวหน้ายังคงมีความยืดหยุ่นสูง ริ้วรอยส่วนใหญ่ยังเป็นแค่ร่องรอยเล็ก ๆ ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า การทำโบท็อกซ์ในวัยนี้จึงเป็นการ “ป้องกัน” ไม่ให้ริ้วรอยเหล่านั้นกลายเป็นริ้วรอยถาวรในอนาคต
   • ปัญหาสำหรับแก้ไข รอยย่นหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว และรอยตีนกาที่เพิ่งเริ่มปรากฏ
   • คำแนะนำ ควรเริ่มทำในปริมาณที่ไม่มากเกินไป (Baby Botox) เพื่อให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้ายังคงแสดงอารมณ์ได้ตามปกติ แต่จะไม่มีร่องรอยให้เห็น
2. สำหรับช่วงอายุ 30-40 ปี เน้นการแก้ไขริ้วรอยและคืนความอ่อนเยาว์ เมื่อเข้าสู่วัยนี้ ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าจะเริ่มลึกและเห็นชัดเจนมากขึ้น รวมถึงริ้วรอยถาวรบางส่วนก็เริ่มก่อตัวขึ้น การทำโบท็อกซ์ในวัยนี้จึงเป็นการแก้ไขและฟื้นฟูผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพตามวัย
   
   • ปัญหาสำหรับแก้ไข รอยย่นลึกที่หน้าผาก รอยขมวดคิ้วที่ชัดเจน และรอยตีนกาที่ดูเป็นเส้น
   • คำแนะนำ แพทย์จะพิจารณาปริมาณโบท็อกซ์ที่เหมาะสมกับระดับความลึกของริ้วรอย และอาจใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ สำหรับร่องลึกที่เกิดจากผิวที่ยุบตัว
3. สำหรับช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป เน้นการฟื้นฟูและยกกระชับ ปัญหาผิวไม่ได้มีแค่เรื่องริ้วรอย แต่ยังรวมถึงความหย่อนคล้อยของผิว การทำโบท็อกซ์ในวัยนี้จึงเป็นการแก้ไขปัญหาริ้วรอยพร้อมกับการช่วยยกกระชับผิวหน้า

• • ปัญหาสำหรับแก้ไข ริ้วรอยลึกที่ชัดเจน ผิวหน้าหย่อนคล้อย
  • คำแนะนำ แพทย์อาจแนะนำการฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่เหมาะสมควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้า เพื่อช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณกรามและลำคอ ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้น