สวัสดีครับ วันนี้คลินิก SCMC อยากชวนคุณมาเช็กสุขภาพผิวกันสักนิด ว่าผิวของคุณกำลัง “อ่อนแอ” โดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า แม้ว่าคุณจะดูแลตัวเองอย่างดี
- ใช้สกินแคร์ครบทุกขั้นตอน
- ดื่มน้ำเยอะ
- นอนให้เพียงพอ
- กินผักเป็นประจำ
แต่บางครั้งผิวของเราก็ยังอ่อนแอได้ จากปัจจัยที่เราคาดไม่ถึง เช่น แสงแดด ฝุ่นและมลภาวะ
ความเครียดสะสม การล้างหน้าแรงเกินไป แต่งหน้าหนักบ่อยๆ เมื่อสิ่งเหล่านี้สะสมมากขึ้น อาจทำให้ผิวเสียสมดุลโดยไม่รู้ตัว และเริ่มส่งสัญญาณเตือนออกมา เช่น
- ผิวแห้ง ลอกง่าย
- ระคายเคือง คัน หรือแดง
- สิวขึ้นซ้ำที่เดิม
- แต่งหน้าไม่ติด
- ใช้สกินแคร์แล้วไม่เห็นผลเหมือนเดิม
หากคุณเริ่มรู้สึกถึงสัญญาณเหล่านี้ นั่นอาจหมายความว่า ถึงเวลาแล้วที่ผิวของคุณต้องการการฟื้นฟูอย่างลึกถึงภายในที่ SCMC เราให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ผิวอย่างละเอียดก่อนเสมอ เพื่อให้คุณได้รับการดูแลอย่างตรงจุด ด้วยแนวทางที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนเพราะการฟื้นฟูผิวที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่คือการสร้างผิวที่แข็งแรงในระยะยาว
1. ผิวแห้ง ลอกง่าย แม้ใช้ครีมบำรุงแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น
หลายคนอาจเข้าใจว่าอาการผิวแห้งเกิดจากอากาศเปลี่ยน นอนน้อย หรือดื่มน้ำน้อย แต่หากคุณพบว่า
- ผิวแห้งตึง ลอกเป็นขุย
- แต่งหน้าไม่ติด
- รู้สึกว่าผิวขาดน้ำตลอดเวลา
- ใช้ครีมบำรุงแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น
นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า “ชั้นผิวภายในเริ่มอ่อนแอ” และไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้เหมือนเดิม ในกรณีแบบนี้ การใช้ครีมบำรุงภายนอกเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะครีมจะทำงานได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อ “ผิวชั้นลึก” ยังแข็งแรงอยู่
แนวทางที่เราแนะนำคือการฟื้นฟูผิวจากภายใน ด้วย Treatment หรือ Booster ที่ออกแบบมาเพื่อเติมน้ำลึกถึงชั้นผิว เสริมปราการปกป้องผิวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ครีมบำรุงที่คุณใช้อยู่ เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น “ เพราะผิวที่ดี เริ่มต้นจากผิวที่แข็งแรงก่อนสวยเสมอ “
2. ผิวไวต่อการระคายเคืองง่ายขึ้น ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เคยไหม… ใช้สกินแคร์ตัวเดิมที่เคยใช้ได้ดีมาตลอด แต่วันหนึ่งกลับรู้สึกแสบ แดง หรือคัน ทั้งที่ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย? หากคุณเริ่มมีอาการเหล่านี้บ่อยขึ้น นี่อาจไม่ใช่แค่ “ผิวแพ้ชั่วคราว” แต่เป็นสัญญาณว่า เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ของคุณเริ่มอ่อนแอลง
เมื่อชั้นผิวบางลง ผิวจะไม่สามารถรับมือกับสิ่งกระตุ้นได้เหมือนเดิม แม้แต่สารที่เคยอ่อนโยน หรือสิ่งรอบตัวที่ดูไม่น่ามีผล เช่น
- แสงแดด
- ฝุ่นในอากาศ
- มลภาวะ
- หรือน้ำประปา
ทั้งหมดนี้ก็อาจทำให้ผิวเกิดอาการแสบ แดง หรือคันได้ง่ายกว่าที่เคย
หากปล่อยให้ผิวอยู่ในภาวะนี้นานเกินไป อาการแพ้จะทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ทางเลือกที่เหมาะสมคือการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวอย่างตรงจุด ด้วยการบำรุงลึกที่ช่วยเสริมสร้างชั้นผิวให้กลับมาแข็งแรง พร้อมรับมือกับสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้นอีกครั้ง ผิวแข็งแรง = ผิวที่ทนได้ ไม่แพ้ง่าย และฟื้นตัวไว
3. ผิวโทรม หน้าหมอง เหมือนพักผ่อนไม่พอตลอดเวลา
เคยไหม… แม้นอนครบ 7-8 ชั่วโมง แต่หน้าก็ยังดูเหนื่อยล้าอยู่ตลอด?
- ผิวหมอง ไม่มีออร่า
- สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- หน้าดูโทรมเหมือนพักผ่อนไม่พอ
นี่อาจไม่ใช่แค่เรื่องของการนอนไม่พอ แต่คือ สัญญาณว่าผิวกำลังล้าจากภายใน
โดยมีสาเหตุสะสมที่พบได้บ่อย เช่น ความเครียด มลภาวะ แสงแดด การสะสมของเซลล์ผิวเก่าที่ผลัดออกไม่หมด หลายคนพยายามแก้ด้วยครีมไวท์เทนนิ่งหรือเซรั่มบำรุงผิว แต่หากผิวยังอ่อนล้าอยู่ลึกๆ ผลลัพธ์ที่ได้มักจะไม่ชัดเจน วิธีที่ตอบโจทย์คือ การฟื้นฟูผิวจากภายใน
เช่น การกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เพิ่มการไหลเวียนเลือดใต้ผิว และเติมสารอาหารให้ผิวดูสดใส มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง เมื่อผิวฟื้นตัวจากภายใน ผิวก็จะสดใสขึ้นจริง โดยไม่ต้องพึ่งแสงไฟหรือฟิลเตอร์